ต่อมน้ำตาอักเสบ
ต่อมน้ำตาอักเสบ (Dacryoadenitis) | |
---|---|
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | H04.0 |
ICD-9 | 375.0 |
DiseasesDB | 3430 |
eMedicine | oph/594 |
MeSH | D003607 |
ต่อมน้ำตาอักเสบ (อังกฤษ: Dacryoadenitis) เป็นการอักเสบของต่อมน้ำตา หรืออาจเรียกว่าท่อน้ำตาอุดตัน
สาเหตุ อุบัติการณ์ และปัจจัยเสี่ยง
[แก้]ต่อมน้ำตาอักเสบเฉียบพลัน (Acute dacryoadenitis) มีสาเหตุหลักจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยที่พบบ่อยคือจากไวรัสคางทูม, ไวรัสเอพสไตน์-บารร์ (Epstein-Barr virus) , สแตฟีโลคอคคัส (staphylococcus) , และโกโนคอคคัส (gonococcus)
ต่อมน้ำตาอักเสบเรื้อรัง (Chronic dacryoadenitis) มักมีสาเหตุจากการอักเสบชนิดไม่ติดเชื้อ (noninfectious inflammatory disorders) เช่นโรคซาร์คอยด์ (sarcoidosis) , อาการทางตาจากโรคไทรอยด์ (thyroid eye disease) และเนื้องอกเสมือนของเบ้าตา (orbital pseudotumor)
อาการ
[แก้]- การบวมของส่วนนอกของหนังตาบน ซึ่งอาจมีอาการแดงและกดเจ็บ
- การเจ็บปวดในบริเวณบวม
- การบวมของต่อมน้ำเหลืองด้านหน้าดวงตา
อาการแสดงและการทดสอบ
[แก้]ต่อมน้ำตาอักเสบสามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจตาและหนังตา การทดสอบพิเศษเช่น CT scan อาจทำในรายที่ต้องการหาสาเหตุที่แน่ชัด ในบางครั้งอาจต้องตัดเนื้อออกตรวจ (biopsy) เพื่อยืนยันว่าก้อนนูนนั้นไม่ใช่เนื้องอก
การรักษา
[แก้]หากสาเหตุของต่อมน้ำตาอักเสบเกิดจากไวรัส เช่น คางทูม การรักษาคือพักผ่อนและประคบด้วยความร้อนก็เพียงพอ สำหรับสาเหตุอื่นๆ อาจต้องใช้การรักษาที่เฉพาะต่อโรคนั้นๆ
พยากรณ์โรค
[แก้]ผู้ป่วยต่อมน้ำตาอักเสบส่วนใหญ่จะหายได้ดี แต่หากมีภาวะร่วมกับโรคที่รุนแรงเช่นโรคซาร์คอยด์ พยากรณ์โรคจะขึ้นกับสาเหตุพื้นฐานนั้นๆ
อาการแทรกซ้อน
[แก้]การบวมอาจรุนแรงจนเกิดการเบียดดวงตา และทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด ในผู้ป่วยบางรายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นต่อมน้ำตาอักเสบอาจกลายเป็นมะเร็งของต่อมน้ำตา
การป้องกัน
[แก้]การป้องกันโรคคางทูมคือการฉีดวัคซีน ส่วนแบคทีเรียและโกโนคอคคัสสามารถหลีกเลี่ยงได้จากการใช้ถุงยางอนามัย ส่วนสาเหตุอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่สามารถป้องกันได้