กฎผลคูณ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ |
แคลคูลัส |
---|
ในคณิตศาสตร์ กฎผลคูณของแคลคูลัส หรือเรียกว่า กฎของไลบ์นิซ[1] เป็นสูตรสำหรับหาอนุพันธ์ของผลคูณของฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้สองฟังก์ชันหรือมากกว่า ซึ่งอาจเขียนในสัญกรณ์ของลากร็องฌ์ได้ดังนี้
หรือด้วยสัญกรณ์ไลบ์นิซดังนี้
- กฎผลคูณสามารถขยายไปยังผลคูณของฟังก์ชันสามจัวหรือมากกว่าก็ได้ หรือในกรณีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การหาอนุพันธ์โดยตรง
การค้นพบโดยไลบ์นิซ
[แก้]ไลบ์นิซได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้นพบกฎนี้ ซึ่งพิสูจน์โดยใช้คณิตศาสตร์ดิฟเฟอเรนเชียล[2] แต่ J. M. Child ผู้แปลผลงานของไลบ์นิซ์เสนอว่า ไอแซค บาร์โรว์ เป็นผู้ค้นพบกฎผลคูณก่อน[3] การพิสูจน์ของไลบ์นิซ์เริ่มต้นโดยสมมติให้ u(x) และ v(x) เป็นฟังก์ชันซึ่งหาอนุพันธ์ได้ของ x ดิฟเฟอเรนเชียลของ uv คือ
แต่เนื่องจากเทอม (du) (dv) มีค่าน้อย ไลบ์นิซสรุปว่า
และนี่คือกฎผลคูณในรูปของดิฟเฟอเรนเชียล ถ้าเราหารตลอดด้วยดิฟเฟอเรนเชียล dx เราจะได้
ซึ่งสามารถเขียนอีกรูปหนึ่งได้เป็น
ตัวอย่าง
[แก้]- สมมุติว่าคุณต้องการหาอนุพันธ์ของ f(x) = x2sin(x) โดยการใช้กฎผลคูณจะได้คำตอบ f'(x) = 2x sin(x) + x2cos(x) (เนื่องจากอนุพันธ์ของ x2 คือ 2x และอนุพันธ์ของ sin(x) คือ cos(x)).
- กฎการคูณด้วยค่าคงที่ (Constant Multiple Rule) ซึ่งเป็นกรณีพิเศษของกฎผลคูณ กล่าวไว้ว่า: ถ้า c เป็น จำนวนจริง และ f (x) เป็นฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้ จะได้ว่า cf (x) ก็หาอนุพันธ์ได้เช่นกัน และมีอนุพันธ์เป็น (c × f)' (x) = c × f'(x). (นี่เป็นผลจากกฎการคูณ เนื่องจากอนุพันธ์ของค่าคงที่ มีค่าเป็นศูนย์) เมื่อนำผลที่ได้นี้รวมเข้ากับกฎผลบวกจะได้ว่า การหาอนุพันธ์เป็นกระบวนการเชิงเส้น
- กฎผลคูณสามารถใช้พิสูจน์การหาปริพันธ์ทีละส่วน และกฎผลหารแบบ"อ่อน" (เพราะกฎผลคูณไม่ได้พิสูจน์ว่าผลหารของฟังก์ชันสองฟังก์ชันจะหาอนุพันธ์ได้ แต่พิสูจน์ว่าหากอนุพันธ์หาได้ จะมีค่าเท่าใดเท่านั้น)
การพิสูจน์กฎผลคูณ
[แก้]กฎผลคูณสามารถพิสูจน์ได้โดยอาศัยคุณสมบัติของลิมิต นิยามของอนุพันธ์ และทฤษฎีบทที่ว่าฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้เป็นฟังก์ชันต่อเนื่อง:
สมมุติว่า โดยที่ และ หาอนุพันธ์ได้ที่ พิจารณาลิมิตของเศษส่วนในนิยามของอนุพันธ์
เนื่องจาก
จะได้ว่า
เนื่องจาก h หาอนุพันธ์ได้ที่ x ดังนั้นจึงต่อเนื่องที่ x ด้วย เราได้
และจาก และ หาอนุพันธ์ได้ที่ จะได้ว่า
- และ
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้
- เป็นการแสดงว่า หาอนุพันธ์ได้ที่ และอนุพันธ์ของ เท่ากับ
นัยทั่วไป
[แก้]ผลคูณมากกว่าสองฟังก์ชัน
[แก้]กฏผลคูณสามารถวางนัยทั่วไปให้กับกรณีที่มีตัวประกอบคูณกันมากกว่าสองตัวได้ อย่างเช่น หากมีตัวประกอบสามตัวจะได้
และสำหรับเซตของฟังก์ชัน จะได้ว่า
พีชคณิตนามธรรม
[แก้]ในพีชคณิตนามธรรม กฎผลคูณใช้เป็นนิยามของการดำเนินการอนุพันธ์
แคลคูลัสเวกเตอร์
[แก้]กฎผลคูณขยายไปยังการคูณด้วยสเกลาร์ ผลคูณจุด และผลคูณไขว้ของฟังก์ชันเวกเตอร์ดังต่อไปนี้[4]
สำหรับการคูณด้วยสเกลาร์:
สำหรับผลคูณจุด:
สำหรับผลคูณไขว้:
นอกจากนี้ยังมีกฎผลคูณสำหรับกระบวนการอื่นที่คล้ายคลึงกับการหาอนุพันธ์: ถ้า f และ g เป็นฟีลด์สเกลาร์แล้วเกรเดียนต์จะสอดคล้องกับกฎผลคูณ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Leibniz rule - Encyclopedia of Mathematics". encyclopediaofmath.org.
- ↑ Cirillo, Michelle. "Humanizing Calculus". The Mathematics Teacher. 101 (1): 23–27. doi:10.5951/MT.101.1.0023. ISSN 0025-5769.
- ↑ Leibniz, Gottfried Wilhelm, Freiherr von (2005). The early mathematical manuscripts of Leibniz. J. M. Child (Dover ed.). Mineola, N.Y.: Dover Publications. ISBN 0-486-44596-8. OCLC 60321838.
- ↑ Stewart, James (2016), Calculus (8 ed.), Cengage, Section 13.2.