เลียงผาใต้
เลียงผาใต้ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Artiodactyla |
วงศ์: | Bovidae |
วงศ์ย่อย: | Caprinae |
สกุล: | Capricornis |
สปีชีส์: | C. sumatraensis |
ชื่อทวินาม | |
Capricornis sumatraensis (Bechstein, 1799) | |
ชนิดย่อย[2] | |
Capricornis sumatraensis Nemorhaedus Capricornis sumatraensis sumatraensis | |
ชื่อพ้อง | |
|
เลียงผาใต้ (อังกฤษ: common serow, Sumatran serow, southern serow, mainland serow) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง อยู่ในอันดับสัตว์กีบคู่ วงศ์ Bovidae อันเป็นวงศ์เดียวกับแพะ, แกะ และวัว [3]
ลักษณะ
[แก้]มีรูปร่างหน้าตาคล้ายแพะ ลำตัวสั้น ขายาว ขนมีเส้นเล็กและหยาบ ขนตามลำตัวมีสีเทาอมดำ บริเวณท้องจะมีสีอ่อนกว่า สีของเลียงผาวัยอ่อนจะมีสีเข้ม แต่จะอ่อนลงเรื่อย ๆ เมื่อโตตามวัย จนดูคล้ายกับสีเทา สีขนบริเวณหน้าแข้งหรือใต้หัวเข่ามีสีดำ ตรงหัวเข่ามีสีน้ำตาลอมแดง มีแผงคอยาวในบางตัวอาจพาดไปถึงหัวไหล่ มีต่อมขนาดใหญ่อยู่ใต้ตาเห็นได้ชัดเจน ริมฝีปากมีสีขาว หูยาวคล้ายลา มีเขาทั้งตัวผู้และตัวเมีย มีรูปร่างคล้ายเขาของแพะ แต่เขาตัวเมียจะสั้นกว่าตัวผู้
โดยทั่วไปมีขนาดเล็กกว่าเลียงผาเหนือ มีขนาดความยาวลำตัวและหัว 140-155 เซนติเมตร ความยาวหาง 115-160 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นดินถึงหัวไหล่ 85-94 เซนติเมตร น้ำหนัก 85-100 กิโลกรัม[3]
ถิ่นกำเนิด
[แก้]พบแพร่กระจายบริเวณภาคใต้ของไทย ตั้งแต่คอคอดกระลงมา คาบสมุทรมลายู และเกาะสุมาตรา
ที่อยู่อาศัย
[แก้]มักอาศัยและหากินตามลำพังบนภูเขาสูงหรือหน้าผา ที่มีพุ่มไม้เตี้ยขึ้นอยู่ กินพืช เช่น ใบไม้และยอดไม้เป็นหลัก ปีนหน้าผาได้อย่างคล่องแคล่ว ออกหากินในเวลาเช้าตรู่ และพลบค่ำ นอนหลับพักผ่อนในเวลากลางวันตามพุ่มไม้ ชอบลับเขาตามต้นไม้หรือโขดหินที่เคยทำอยู่ประจำ มีนิสัยชอบถ่ายมูลซ้ำที่เดิม ว่ายน้ำเก่ง เคยมีรายงานหลายครั้งว่า สามารถว่ายน้ำข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ได้ หรือบางครั้งอาจว่ายไปมาระหว่างเกาะในทะเลได้ด้วย เมื่อพบศัตรูจะยืนอยู่นิ่ง ๆ ครู่หนึ่งแล้วจึงกระโจนหลบหนีไป มีประสาทหูและตาดีเยี่ยม จมูกรับกลิ่นดีมาก มีฤดูผสมพันธุ์ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 7 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว[3]
การอนุรักษ์
[แก้]เลียงผาใต้ เป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 สถานภาพปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์แล้ว เนื่องจากถูกล่าไปทำเป็นยาสมุนไพรจีน
หมายเหตุ
[แก้]เดิมทีเลียงผาใต้ เคยเป็นเลียงผาเพียงชนิดเดียวที่พบได้ในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันด้วยข้อมูลใหม่พบว่ายังมีเลียงผาอีกชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในประเทศไทย นั่นคือ เลียงผาเหนือ (C. milneedwardsii)[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Duckworth, J.W., Steinmetz, R. & MacKinnon, J. (2008). Capricornis sumatraensis. In: IUCN 2008. IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 2010-04-04.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อdnp
- ↑ 3.0 3.1 3.2 กองทุนสัตว์ป่าโลก สำนักงานประเทศไทย. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน. กรุงเทพฯ : ไซรัสการพิมพ์, 2543. 256 หน้า. ISBN 978-9749-906-651
- ↑ "ความหลากหลายของสัตว์ป่าเมืองไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2013-09-26.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Capricornis sumatraensis ที่วิกิสปีชีส์